วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2555



บทละครเรื่อง รามเกียรติ์ เป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธอดฟ้า
จุฬาโลกมหาราช เนื้อเรื่องมาจากวรรณคดีของอินเดียเรื่อง รามายณะ อันเป็นวรรณคดี
ที่สำคัญและมีมานานกว่า ๒๐๐๐ ปีมาแล้ว ไทยเรานำมาเล่นเป็นหนังและโขน
ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีก็ได้ทรงพระราชนิพนธ์เรื่อง
รามเกียรติ์ เป็น กลอนบทละคร แต่ไม่แพร่หลายพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬา
โลกมหาราชทรงเกรงว่า เรื่อง รามเกียรติ์ จะสูญไปเสียจึงได้ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้น
และได้โปรดเกล้าฯ ในกวีในสมัยของพระองค์ร่วมนิพนธ์ด้วยหลายตอนรามเกียรติ์
ฉบับพระราชนิพนธ์ฉบับนี้ ถ้าเปรียบเทียบกับวรรณคดีเรื่อง รามายณะ ของอินเดีย
แล้วก็มีที่แตกต่างกันหลายอย่าง เช่น เนื้อเรื่องบางตอน ชื่อตัวละครบางตัว เป็นต้น
นอกจากนี้ในอินเดีย วรรณคดีเรื่องนี้ถือกันว่าเป็นคัมภีร์สำคัญเพราะเป็นเรื่องราว
ที่แสดงให้เห็นอิทธิฤทธิ์ของ พระผู้เป็นเจ้าในศาสนาพราหมณ์ ด้วยเหตุที่ไทย
เรานับถือพุทธศาสนา เราจึงมิได้ยึดถือเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงจังนัก ดังที่กล่าวไว้
ในตอนท้ายเรื่องว่า
 อันพระราชนิพนธ์รามเกียรติ์ ทรงเพียรตามเรื่องนิยายไสย
ใช่จะเป็นแก่นสารสิ่งใดตั้งพระทัยสมโภชบูชา
ใครฟังอย่าได้ไหลหลงจงปลงอนิจจังสังขาร์
ซึ่งอักษรกลอนกล่าวลำดับมาโดยราชปรีดาก็บริบูรณ์


     พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระราชสมภพเมื่อ
พ.ศ. ๒๒๗๙ ในรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระนามเดิมว่า ทองด้วง
เมื่อทรงเจริญวัยได้เข้ารับราชการเป็นมหาดเล็กในสมเด็จเจ้าฟ้าอุทุมพร
ต่อมาในรัชการพระเจ้าเอกทัศน์ได้เป็นหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี
หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ ๒ และสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ทรงกู้อิสรภาพได้แล้ว ทรงรับราชการอยู่ด้วยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ทรงเป็นแม่ทัพสำคัญในการปราบปรามชุมนุมต่างๆ และหัวเมืองเขมร ลาว
แข็งข้อ ตลอดจนกองทัพพม่าที่ยกมาตีเชียงใหม่ และพิษณุโลกได้อย่างสามารถ
มีความดีความชอบได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นโดยลำดับจากพระราชวรินทร
พระยาอภัยรณฤทธิ์ พระยายมราช เจ้าพระยาจักรี จนถึงสมเด็จเจ้าพระยา
มหากษัตริย์ศึก     ต่อมากรุงธนบุรีเกิดจลาจล สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ทรงไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ ประชาราษฏร์จึงได้กราบทูลอัญเชิญ
สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกขึ้นครองราชย์สมบัติเมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๕
พระองค์ได้ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์
และได้ทรงย้ายราชธานีมาอยู่ ณ กรุงเทพมหานคร
     ตลอดรัชการพระองค์ต้องทรงกระทำสงครามกับพม่า ยาม
สงบศึกก็ทรงบูรณะ ฟื้นฟูพระนครและพระราชอาณาจักรหลายด้าน
เช่น การปกครอง เศรษฐกิจ การทหาร พระพุทธศาสนา วัฒนธรรม
และศิลปกรรม และที่สำคัญยิ่งคือ ได้ทรงริเริ่มการสังคายนาพระไตรปิฏก
และจารึกไว้เป็นหลักฐานอย่างครบถ้วน พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถ
ทั้งในการรบและการประพันธ์ ได้ทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่อง
รามเกียรติ์ ฉบับสมบูรณ์บทละครเรื่อง อิเหนา อุณรุท นิราศเรื่อง
รบพม่าที่ท่าดินแดง และกวี ช่วยกันแต่งวรรณกรรมต่างๆ ที่เคยมีมาแต่ครั้ง
กรุงศรีอยุธยา แต่ได้สูญหายไปเมื่อคราวเสียกรุง ให้แต่งขึ้นใหม่เป็นวรรณคดี
สำหรับพระนคร
      พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงครองราชย์สมบัติอยู่
๒๗ปี เสด็จสวรรคต เมื่อ พ.ศ. ๒๓๕๒ พระชนมายุ ๗๓ พรรษา

                                         





                                                     รามเกียรติ์ ตอนปราบนนทก

มาจะกล่าวบทไป ถึงนนทกน้ำใจกล้าหาญ
ตั้งแต่พระสยมภูวญาณประทานให้ล้างเท้าเทวา
อยู่บันไดไกรลาสเป็นนิจ สุราฤทธิ์ตบหัวแล้วลูบหน้า
บ้างให้ตักน้ำลางบาทาบ้างถอนเส้นเกศาวุ่นไป
จนผมโกร๋นโล้นเกลี้ยงถึงเพียงหูดูเงาในน้ำแล้วร้องไห้
ฮึดฮัดขัดแค้นแน่นใจตาแดงดั่งแสงไฟฟ้า
เป็นชายดูดู๋มาหมิ่นชายมิตายจะได้มาเห็นหน้า
คิดแล้วก็รีบเดินมาเฝ้าพระอิศราธิบดี ฯ
 ฯ ๘ คำ ฯ เสมอ
ครั้นถึงจี่งประณตบทบงสุ์ ทูลองค์พระอิศวรเรืองศรี
ว่าพระองค์เป็นหลักธาตรีย่อมเมตตาปรานีทั่วพักตร์
ผู้ใดทำชอบต่อเบื้องบาทก็ประสาททั้งพรแลยศศักดิ์
ตัวข้านี้มีชอบนัก
ล้างเท้าสุรารักษ์ถึงโกฏิปี
พระองค์ผู้ทรงศักดาเดชไม่โปรดเกศแก่ข้าบทศรี
กรรมเวรสิ่งใดดั่งนี้ทูลพลางโกศีรำพัน ฯ
 ฯ ๖ คำ ฯ โอด
เมื่อนั้นพระอิศวรบรมรังสรรค์
เห็นนนทกโศกาจาบัลย์พระทรงธรรม์ให้คิดเมตตา
จึ่งมีเทวราชบรรหารเอ็งต้องการสิ่งไรจงเร่งว่า
ตัวกูจะให้ดั่งจินดาอย่าแสนโศกาอาลัย ฯ
 ฯ ๔ คำ ฯ
บัดนั้นนนทกผู้มีอัชณาสัย
น้อมเศียรบังคมแล้วทูลไปจะขอพรเจ้าไตรโลกา
ให้นิ้วข้าเป็นเพชรฤทธีจะชี้ใครจงม้วยสังขาร์
จะได้รองเบื้องบาทาไปกว่าจะสิ้นชีวี ฯ
 ฯ ๔ คำ ฯ



เมื่อนั้นพระสยมภูวญาณเรืองศรี

ได้ฟังนนทกพาที
ภูมีนิ่งนึกตรึกไป
ไอ้นี่มีชอบมาช้านอนจำจะประทานพรให้
คิดแล้วก็ประสิทธิ์พรชัยจงได้สำเร็จมโนรถ ฯ
 ฯ ๔ คำ ฯ
บัดนั้นนนทกผู้ใจสาหส
รับพรพระศุลีมียศบังคมลาแล้วบทจรไป ฯ
 ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ
ครั้นถึงบันไดไกรลาส ขัดสมาธินั่งยิ้มริมอ่างใหญ่
คอยหมู่เทวาสุราลัยด้วยใจกำเริบอหังการ์ ฯ
 ฯ ๒ คำ ฯ
เมื่อนั้นเทวาสุราฤทธิ์ทุกทิศา
สุบรรณคนธรรพ์วิทยาต่างมาเฝ้าองค์พระศุลี ฯ
 ฯ ๒ คำ ฯ เหาะ
ครั้นถึงซึ่งเซิงไกรลาสคนธรรพ์เทวาราชฤาษี
ก็ชวนกันย่างเยื้องจรลี เข้าไปยังที่อัฒจันทร์ ฯ
 ฯ ๒ คำ ฯ
นนทกก็ล้างเท้าให้เมื่อจะไปก็จับหัวสั่น
สัพยอกหยอกเล่นเหมือนทุกวันสรวลสันต์เยาะเย้ยเฮฮา ฯ
 ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา
บัดนั้น นนทกน้ำใจแกล้วกล้า
กริ้วโกรธร้องประกาศตวาดมาอนิจจาข่มเหงเล่นทุกวัน
จนหัวไม่มีผมติดขบฟันแล้วชี้นิ้วไป ฯ
 ฯ ๔ คำ ฯ
ต้องสุบรรณเทวานาคีดั่งพิษอสุนีไม่ทนได้
ลัมฟาดกลาดเกลื่อนลงทันใดบรรลัยไม่ทันพริบตา ฯ
 ฯ ๒ คำ ฯ โอด
เมื่อนั้นหัสนัยน์เจ้าตรัยตรึงศา
เห็นนนทกนั้นทำฤทธา ชี้หมู่เทวาวายปราณ
ตกใจตะลึกรำพึงคิดใครประสิทธิ์ให้มันมาสังหาร
คิดแล้วเข้าเฝ้าพระทรงญาณยังพิมานทิพรัตน์รูจี ฯ
 ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ
ครั้นถึงจึ่งประณตบทบงสุ์ทูลองค์พระอิศวรเรืองศรี
ว่านนทกมันทำฤทธีชี้หมู่เทวานั้นบรรลัย
อันซึ้งนิ้วเพชรของมันพระทรงธรรม์ประสิทธิ์หรือไฉน
จึ่งทำอาจองทะนงใจไม่เกรงใต้เบื้องบาทา ฯ
 ฯ ๔ คำ ฯ

เมื่อนั้นพระอิศวรบรมนาถา
ได้ฟังองค์อมรินทรา จึ่งมีบัญชาตอบไป
ไอ้นี่ทำชอบมาช้านานเราจี่งประทานพรให้
มันกลับทรยศกบฏใจทำการหยาบใหญ่ถึงเพียงนี้ ฯ
 ฯ ๔ คำ ฯ
ตรัสแล้วจึ่งมีบัญชาดูราพระนารายณ์เรืองศรี
ตัวเจ้าผู้มีฤทธี เป็นที่พึ่งแก่หมู่เทวัญ
จงช่วยระงับดับเข็ญให้เย็นทั่วพิภพสรวงสวรรรค์
เชิญไปสังหารอ้ายอาธรรม์ให้มันสิ้นชีพชีวา ฯ
 ฯ ๔ คำ ฯ
เมื่อนั้นองค์นารายณ์นาถา
รับสั่งถวายบังคมลาออกมาแปลงกายด้วยฤทธี ฯ
 ฯ ๒ คำ ฯ ตระ
เป็นโฉมนางเทพอัปสรอ้อนแอ้นอรชรเฉลิมศรี
กรายกรย่างเยื่องจรลี ไปสู่ที่นนทกจะเดินมา ฯ
 ฯ ๒ คำ ฯ เชิด เพลง
บัดนั้นนนทกผู้ใจแกล้วกล้า
สิ้นเวลาเฝ้าเจ้าโลกาสำราญกายาแล้วเดินมา ฯ
 ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
เหลือบเห็นสตรีวิไลลักษณ์์พิศพักตร์ผ่องเพียงแขไข
งามโอษฐ์งามแก้มงามจุไรงามนัยน์เนตรงามกร
งามถันงามกรรณงามขนง งามองค์ยิ่งเทพอัปสร
งามจริตกิริยางามงอนงามเอวงามอ่อนทั้งกายา
ถึงโฉมองค์อัครลักษมีพระสุรัสวดีเสน่หา
สิ้นทั้งไตรภพจบโลกาจะเอามาเปรียบไม่เทียบทัน
ดูไหนก็เพลินจำเริญรักในองค์เยาวลักษณ์สาวสวรรค
ยิ่งพิศยิ่งคิดผูกพันก็เดินกระชั้นเข้าไป ฯ
 ฯ ๘ คำ ฯ เข้าม่าน
โฉมเอยโฉมเฉลาเสาวภาค์แน่งน้อยพิสมัย
เจ้ามาแต่สวรรค์ชั้นใดนามกรชื่อไรนะเทวี
ประสงค์สิ่งอันใดจะใคร่รู้ทำไมมาอยู่ที่นี่
ข้าเห็นเป็นน่ปรานีมารศรีจงแจ้งกิจจา ฯ
 ฯ ๔ คำ ฯ
เมื่อนั้นนางนารายณ์เยาวลักษณ์เสน่หา
ได้ฟังยิ่งทำมารยาชำเลืองนัยนาแล้วตอบไป
ทำไมมาล่วงไถ่ถามลวนลามบุกรุกเข้ามาใกล้
ท่านนี้ไม่มีความเกรงใจเราเป็นข้าใช้เจ้าโลกา
พนักงานฟ้อนรำระบำบันชื่อสุวรรณอัปสรเสน่หา
มีทุกข์จึ่งเที่ยวลงมาหวังว่าจะให้คลายร้อน ฯ
 ฯ ๖ คำ ฯ
สุดเอยสุดสวาทโฉมประหลาดล้ำเทพอัปสร
ทั้งวาจาจริตก็งามงอนควรเป็นนางฟ้อนวิไลลักษณ์
อันซึ่งธุระของเจ้าหนักเบาจงแจ้งให้ประจักษ์
ถ้าวาสนาเราเคยบำรุงรักก็จะเป็นภักดิ์ผลสืบไป
ตัวพี่มิได้ลวนลามจะถือความสิ่งนี้นี่ไม่ได้
สาวสรรค์ขวัญฟ้ายาใจพี่ไร้คู่จะพึ่งแต่ไมตรี ฯ
 ฯ ๖ คำ ฯ
เมื่อนั้นนางเทพนิมิตโฉมศรี
ค้อนแล้วจึ่งตอบวาทีว่านี้ไพเราะเป็นพ้นไป
อันซึ่งฝากไมตรีข้า ข้อนั้นไพเราะเป็นพ้นไป
อันซึ่งจะฝากไมตรีข้าข้อนั้นอย่าว่าหารู้ไม่
เราเป็นนางรำระบำในจะมีมิตรที่ใจผูกพัน
ในการนักเลงเพลงฟ้อนจึ่งจะผ่อนด้วยความเกษมสันต์
รำได้ก็มารำตามกันนั่นแหละจะสมดั่งจินดา ฯ
 ฯ ๖ คำ ฯ
บัดนั้นนนทกผู้ใจแกล้วกล้า
ไม่รู้ว่านารายณ์แปลงมาก็โสมนัสสาพันทวี
ยิ้มแล้วจึ่งกล่าวว่าสุนทรดูก่อนนางฟ้าเฉลิมศรี
เจ้าจักปรารมภ์ไปไยมี พี่เป็นคนเก่าพอเข้าใจ
เชิญเจ้ารำเถิดนะนางฟ้าให้สิ้นท่าที่นางจำได้
ตัวพี่จะรำตามไป มิให้ผิดเพลงนางเทวี ฯ
 ฯ ๖ คำ ฯ
เมื่อนั้นพระนารายณ์ทรงสวัสดิ์รัศมี
เห็นนนทกหลงกลก็ยินดีทำทีเยื้องกรายให้ยวนยิน ฯ
 ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา
เทพนมปฐมพรหมสี่หน้าสอดสร้อยมาลาเฉิดฉิน
ทั้งกวางเดินหงส์บินกินรินเลียบถ้ำอำไพ
อีกช้านางนอนภมรเคล้าทั้งแขกเต้าผาลาเพียงไหล่
เมขลาโยนแก้วแววไว มยุเรศฟ้อนในอัมพร
ลมพัดยอดตองพรหมนิมิตทั้งพิสมัยเรียงหมอน
ย้ายท่ามัจฉาชมสาคร พระสี่กรขว้างจักรฤทธิรงค์
ฝ่ายนนทกก็รำตามด้วยความพิสมัยใหลหลง
ถึงท่านาคาม้วนหางวงชี้ตรงถูกเพลาทันใด ฯ
 ฯ ๘ คำ ฯ เพลง
ด้วยเดชนิ้วเพชรสิทธิศักดิ์ขาหักล้มลงไม่ทนได้
นางกลายเป็นองค์นารายณ์ไปเหยียบไว้จะสังหารราญรอน ฯ
 ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
บัดนั้นนนทกแกล้วหาญชาญสมร
เห็นพระองค์ทรงสังข์คทาธรเป็นสี่กรก็รู้ประจักษ์ใจ
ว่าพระหริวงศ์ทรงฤทธิ์ลวงล้างชีวิตก็เป็นได้
จึ่งมีวาจาถามไปโทษข้าเป็นไฉนให้ว่ามา ฯ
 ฯ ๔ คำ ฯ
เมื่อนั้น พระนารายณ์บรมนาถา
ได้ฟังจึ่งมีบัญชาโทษามึงใหญ่หลวงนัก
ด้วยทำโอหังบังเหตุไม่เกรงเดชพระอิศวรทรงจักร
เอ็งฆ่าเทวาสุรารักษ์โทษหนักถึงที่บรรลัย
ตัวกูก็คิดเมตตาแต่จะไว้ชีวามึงไม่ได้
ตรัสแล้วแกว่งตรีเกรียงไกรแสงกระจายพรายไปดั่งไฟกาล ฯ
 ฯ ๖ คำ ฯ
บัดนั้น นนทกผู้ใจแกล้วหาญ
ได้ฟังจึ่งตอบพจมานซึ่งพระองค์จะผลาญชีวี
เหตุใดมิทำซึ่งหน้ามารยาเป็นหญิงไม่บัดสี
หรือว่ากลัวนิ้วเพชรนี้จะชี้พระองค์ให้บรรลัย
ตัวข้ามีมือแต่สองมือหรือจะสู้ทั้งสี่กรได้
แม้นสี่มือเหมือนพระองค์ทรงชัย ที่ไหนจะทำได้ดั่งนี้ ฯ
 ฯ ๖ คำ ฯ
เมื่อนั้นพระนารายณ์ทรงสวัสดิ์รัศมี
ได้ฟังจึ่งตอบวาทีกูนี้แปลงเป็นสตรีมา
เพราะมึงจะถึงแก่ความตายฉิบหายด้วยหลงเสน่หา
ใช่ว่ากลัวฤทธาศักดานิ้วเพชรนั้นเมื่อไร
ชาตินี้มึงมีแต่สองหัตถ์จงไปอุบัติเอาชาติใหม่
ให้สิบเศียรสิบพักตร์เกรียงไกรเหาะเหินเดินได้ในอัมพร
มีมือยี่สิบซ้ายขวาถือคทาอาวุธธนูศร
กูจะเป็นมนุษย์แต่สองกรตามไปราญรอนชีวี
ให้สิ้นวงศ์มึงอันศักดาประจักษ์แก่เทวาทุกราศี
ว่าแล้วกวัดแกว่งพระแสงตรีภูมีตัดเศียรกระเด็นไป ฯ
 ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด โอด
ครั้นล้างนนทกมรณาพระจักราผู้มีอัชณาสัย
เหาะระเห็จเตร็จฟ้าด้วยว่องไวไปยังเกษียรวารี ฯ
 ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
เมื่อนั้นฝ่ายนางรัชดามเหสี
องค์ท้าวลัสเตียนธิบดีเทวีมีราชบุตรา
คือว่านนทกมากำเนิดเกิดเป็นพระโอรสา
ชื่อทศกัณฐ์กุมาราสิบเศียรสิบหน้ายี่สิบกร
อันน้องซึ่งถัดมานั้นชื่อกุมภรรณชาญสมร
องค์พระบิตุเรศมารดรมิให้อนาทรสักนาที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น